- Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 วัน โดยพุ่งขึ้น 10.3% ท่ามกลางแนวโน้มขาขึ้น
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดและรายงานของแบล็คร็อคผลักดันให้เกิดความเชื่อมั่นของตลาด
Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของโลก พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 วันที่ 64,133 ดอลลาร์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 10.3% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มขาขึ้นกลับมา แม้ว่าในช่วงต้นเดือนจะมีแนวโน้มขาลง แต่ปัจจุบัน Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ 63,821.27 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะลดลง 11% ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังของนักลงทุน
ราคา Bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้นสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนโดยความเสี่ยงหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นรอบการผ่อนคลายครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะได้รับการตอบรับจากตลาด แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นกัน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยระบุว่าความเสี่ยงระหว่างเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงนั้นสมดุลกันแล้ว
ในขณะเดียวกัน BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ออกเอกสารเผยแพร่เพื่อระบุถึงศักยภาพของสกุลเงินดิจิทัลในการป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินและภูมิรัฐศาสตร์ รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่โดย Eric Balchunas นักวิเคราะห์ของ Bloomberg บน X (เดิมคือ Twitter) ไม่นานก่อนที่ Bitcoin จะเริ่มพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดประจำวันที่ 59,354 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดไม่ได้ชี้ให้เห็นถึง แนวโน้ม ขาขึ้น อย่างต่อเนื่อง Lightning Network ซึ่งเป็นโซลูชันการปรับขนาด Bitcoin ในระดับที่สอง พบว่าความจุลดลงอย่างรวดเร็ว โดยลดลงจาก 5,308 BTC ในเดือนกรกฎาคมเป็น 1,273 BTCจำนวนโหนดและช่องทางบนเครือข่ายก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมของผู้ใช้ที่ลดลง
เมื่อไหร่ BTC จะผ่าน $65,000?
ระดับแนวต้านถัดไปของ Bitcoin อยู่ที่ 64,521 ดอลลาร์และ 64,928 ดอลลาร์ หากราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาอาจทะลุ 65,000 ดอลลาร์ได้ แต่หากราคากลับตัวเป็นขาลง ราคาอาจร่วงลงมาที่ 60,366 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 59,567 ดอลลาร์ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) รายวันอยู่ที่ 63 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะตลาดซื้อมากเกินไป
ในขณะที่ Bitcoin ยืนอยู่ใกล้แนวต้าน สำคัญ ผู้ซื้อขายยังคงวิตกกังวลและเฝ้าดูสัญญาณของความแข็งแกร่งที่ต่อเนื่องหรือการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด